บริษัท CEVA Logistics (CEVA) ประกาศเพิ่มจำนวนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ให้เป็น 1,450 คัน ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนความมุ่งมั่นของบริษัทที่จะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 ภายในงาน Transport Logistic 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ Munich ประเทศเยอรมนี
โดยแผนการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนของบริษัทฯ ในครั้งนี้ประกอบไปด้วยการจัดซื้อจัดหารถตู้ขนส่งสินค้าจำนวน 1,000 คัน รถบรรทุก 300 คัน และหัวลาก 150 คัน เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการขนส่งสินค้าแบบไม่เต็มคันรถ (LTL) การขนส่งในระยะ Last Mile และรวมไปถึงการปฏิบัติการพิเศษ อย่าง European Clean Transport Network อีกด้วย ซึ่งรถยนต์ EV เหล่านี้จะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้โดยประมาณ 67,000 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการเดินทางไป-กลับ ระหว่าง Paris และ Munich ถึง 30,000 เที่ยว
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทาง CEVA ตระหนักว่า การใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้านั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และได้เริ่มต้นการเปลี่ยนผ่านมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า การตัดสินใจดังกล่าวทำให้ทางบริษัทได้รับประสบการณ์ในการบริหารจัดการรถตู้ขนส่งสินค้าพลังงานไฟฟ้ากว่า 200 คัน โดยผ่านบริษัทลูก อย่าง Colis Privé และการเป็นเจ้าของรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าอีกกว่า 20 คันในทุกภาคพื้น
นอกจากนี้ CEVA ยังมีรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า JAC iEV1200T จำนวนเจ็ดคัน ปฏิบัติการอยู่ในบราซิลตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 โดยรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้าเหล่านี้มีระยะการปฏิบัติการอยู่ที่ 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง บรรทุกน้ำหนักได้ 3.5 ตัน และมีปริมาตรในการบรรทุกสินค้าอยู่ที่ 26 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อครบกำหนดการใช้งานหนึ่งปี รถบรรทุกเหล่านี้ได้เดินทางเป็นระยะทางมากกว่า 14,000 กิโลเมตร และขนส่งสินค้าไปแล้วกว่า 150,000 ชิ้น โดยบริษัทได้ประมาณการณ์ว่ารถบรรทุก EV เหล่านี้จะสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ปีละ 56 ตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการตัดต้นไม้กว่า 1,600 ต้น
ขณะเดียวกัน CEVA มีแผนในการขยายกองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยภายในปี 2023 เพื่อสนับสนุนบริษัทค้าปลีกอุปกรณ์การกีฬา Decathlon โดยทั้งสองบริษัทมีการร่วมมือทางธุรกิจในด้านการกระจายสินค้าทางบกภายในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2021 โดยเริ่มต้นจากรถตู้พลังงานไฟฟ้าเพียงหนึ่งคัน ซึ่งในปัจจุบันกองรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยของบริษัทฯ ประกอบด้วยรถตู้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดสามคัน และรถบรรทุก EVO G9 อีกสองคัน โดยในปี 2023 นี้ บริษัทฯ ได้วางแผนที่จะนำรถบรรทุก G9 อีกสองคันเข้ามาร่วมกองรถยนต์ขนส่งอีกด้วย
อีกทั้ง CEVA ยังมีความพยายามที่จะนำวิธีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกวิธีอื่นๆ เข้ามาสู่การปฏิบัติการภาคพื้น เช่น การเพิ่มอัตราส่วนการใช้งานก๊าซชีวภาพและเชื้อเพลิงชีวภาพ การทดลองใช้เชื้อเพลิงพลังงานไฮโดรเจน การใช้รถบรรทุกที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ และการปรับแผนการขนส่งสินค้าแบบเต็มคันรถบรรทุกไปสู่การขนส่งทางรถไฟอีกด้วย
นอกจากนี้ ภายในสิ้นปี 2025 บริษัท CEVA ยังมีแผนที่จะเพิ่มพื้นที่การติดตั้งโซล่าเซลล์ขึ้นสามเท่า โดยผ่านแผนการลงทุนร่วมกว่า 180 เหรียญสหรัฐ และมีแผนที่จะเปลี่ยนการใช้พลังงานภายในคลังสินค้าให้เป็นพลังงานที่ใช้คาร์บอนในการผลิตต่ำในช่วงเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังมีแผนที่จะเปลี่ยนหลอดไฟในคลังสินค้าทั้งหมดให้เป็นหลอดไฟ LED ภายในสิ้นปี 2023 โดยแผนการเหล่านี้เป็นการปฏิบัติตามเป้าหมายเพื่อมองหาวิธีในการขนส่งและบริหารจัดการพัสดุที่ดียิ่งขึ้น ตามแถลงการณ์ด้านความยั่งยืนในการพัฒนาคลังสินค้าที่ทางบริษัทได้แถลงไว้เมื่อปี 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งหลายส่วนเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติการภาคพื้นดิน
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่