APM Terminals Bahrain ผู้ปฏิบัติการท่าเรือ Khalif Bin Salman Port ประกาศเปิดตัวโครงการพัฒนาระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มูลค่าราว 3.8 ล้านดีนาร์บาห์เรน หรือประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลให้ท่าเรือแห่งนี้สามารถผลิตไฟฟ้าได้เองและเพียงพอต่อการใช้งานในท่าเรือได้ ภายในสิ้นปี 2023 นี้
โดยโครงการดังกล่าวจะช่วยให้ท่าเรือสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และมีหลักประกันด้านแหล่งพลังงานที่มั่นคงและยั่งยืน อีกทั้งโครงการนี้ยังจะสนับสนุนให้ท่าเรือ Khalifa Bin Salman Port ก้าวขึ้นเป็นท่าเรือทางทะเลแห่งแรกของภูมิภาคที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอต่อการใช้งานทั้งหมดภายในท่าเรือ
โครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดการปล่อยคาร์บอนระดับโลกของ APM Terminals ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2040 ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยการเป็นบริษัทย่อยในเครือ A.P. Moller – Maersk บริษัทฯ จึงมีความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำในการส่งเสริมความยั่งยืนภายในอุตสาหกรรมพาณิชยนาวี ดังนั้น โครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์นี้จึงเป็นหนึ่งในหลักสำคัญในแผนการลดการปล่อยคาร์บอนของทางบริษัทฯ
โดยเมื่อโครงการดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ ท่าเรือดังกล่าวจะได้รับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งหมด 20,000 แผง ซึ่งมีกำลังผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 18.5 กิกะวัตต์ต่อปี โดยพลังงานดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในการปฏิบัติการต่างๆ ภายในท่าเรือ อาทิ การจัดการยกขนตู้สินค้า การปฏิบัติการเครน และระบบไฟฟ้าส่องสว่าง เป็นต้น
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังถูกผลักดันโดยผ่านวิสัยทัศน์ของสมเด็จพระราชาธิบดีฮะมัด บิน อีซา อัลเคาะลีฟะฮ์ แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน ในด้านการพัฒนาประเทศบาห์เรนให้มีความรุ่งเรืองและยั่งยืน และสอดคล้องกับความตั้งใจในด้านการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ของเจ้าชายซัลมาน บินฮะมัด บินอีซา อัลเคาะลีฟะฮ์ มกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรนและนายกรัฐมนตรี ที่ตั้งใจจะบรรลุเป้าหมายด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศลง 30 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2035 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2060 อีกด้วย
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่