COSCO SHIPPING สั่งต่อเรือขนส่งสินค้าเชื้อเพลิงคู่เมทานอลขนาด 14,000 ทีอียู 12 ลำ

0
296

บริษัท COSCO SHIPPING Heavy Industry และ COSCO SHIPPING Container Lines ลงนามสัญญาสั่งก่อสร้างเรือขนส่งตู้สินค้าเชื้อเพลิงคู่เมทานอล ขนาด 14,000 ทีอียู จำนวน 12 ลำ ใน Shanghai ประเทศจีน โดยคำสั่งซื้อล่าสุด COSCO SHIPPING เป็นการเน้นย้ำถึงเป้าหมายด้านการปรับใช้แนวคิดการพัฒนาเชื้อเพลิงสีเขียวคาร์บอนต่ำและสร้างกองเรือที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการลดผลกระทบของการปฏิบัติการรายวันที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและพัฒนาระบบนิเวศเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนในระยะยาว

เรือรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัฒนาร่วมกับสายการเดินเรือ COSCO SHIPPING, COSCO SHIPPING Heavy Industry และสถาบันวิจัย China Shipbuilding and Ocean Engineering Design and Research Institute โดยเรือมีความยาว 335.9 เมตร ความกว้าง 51 เมตร และมีหัวเรือแบบกระเปาะ พร้อมเครื่องยนต์ประหยัดพลังงาน เรือลำใหม่ได้รับการออกแบบให้ทันสมัยและมีเทคโนโลยีก้าวหน้า สามารถรองรับการยกขนสินค้าได้ถึง 13,700 ทีอียู และรองรับตู้สินค้าเย็นได้จำนวนมาก ช่วยให้สายการเดินเรือสามารถให้บริการขนส่งสินค้าควบคุมอุณหภูมิคุณภาพสูงและครบวงจรแก่ลูกค้าทั่วโลกได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

ทั้งนี้ เรือลำใหม่ได้รับการติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแม่เหล็กที่ทรงพลังที่สุด ตัวปรับทิศทางลม ระบบกรองลมบนลำเรือ และระบบอัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นโดย COSCO SHIPPING ซึ่งจะช่วยเติมเต็มตัวชี้วัดประสิทธิภาพพลังงาน EEDI ในเฟสที่สาม และสอดคล้องตามกฎระเบียบความปลอดภัยด้านไซเบอร์ฉบับล่าสุด เครื่องยนต์หลักเชื้อเพลิงคู่และเครื่องผลิตพลังงานใช้เชื้อเพลิงเมทานอลทั้งคู่ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบัน กลุ่มสายการเดินเรือ COSCO SHIPPING Holdings มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการสร้างเรือลำใหม่และปรับกองเรือที่มีอยู่เดิมให้ทันสมัยขึ้น เพื่อเร่งการเปลี่ยนถ่ายพลังงานสีเขียวคาร์บอนต่ำในกองเรือ​ โดยบริษัทฯ ได้สั่งซื้อเรือขนาดพื้นที่ระวางสินค้าเชื้อเพลิงคู่เมทานอล ขนาดพื้นที่ระวางสินค้า 24,000 ทีอียู จำนวน 12 ลำ และลงนามสัญญาในการเปลี่ยนเรือจำนวนแปดลำให้เป็นเชื้อเพลิงคู่เมทานอล ขณะเดียวกันก็ยังมุ่งมั่นผลักดันแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ปฏิบัติการเรือพลังงานไฟฟ้าล้วน และโครงการนำร่องด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ

ในอนาคต COSCO SHIPPING Holdings จะมุ่งมั่นดำเนินการตามแนวทาง ‘อัจฉริยะด้านดิจิทัล’ และ ‘พลังงานสีเขียวคาร์บอนต่ำ’ เพื่อยกระดับนวัตกรรมและพัฒนา รวมทั้งบรรลุความสำเร็จร่วมกันระหว่างการพัฒนาคุณภาพสูงและการพัฒนาที่ยั่งยืนในระดับโลก รวมถึงการเปิดรับยุคสมัยใหม่แห่งการพัฒนา ผลักดันแนวทางการพัฒนาใหม่ๆ มอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า และสร้างคุณค่าให้แก่ผู้ถือหุ้นมากขึ้น


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้YJC Depot Services บริจาคสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ
บทความถัดไปGEODIS จับมือ Mondelez International ขยายระยะเวลาการเป็นพันธมิตรในบริการโลจิสติกส์แบบ 3PL