ท่าเรือ Singapore ท่าเรือ Long Beach และท่าเรือ Los Angeles ร่วมมือพัฒนาเฉลียงการขนส่งสินค้าแบบดิจิทัล

0
819

การพาณิชย์นาวีและท่าเรือแห่งสิงคโปร์ (MPA) ท่าเรือ Long Beach และท่าเรือ Los Angeles โดยการสนับสนุนของกลุ่มความร่วมมือ C40 Cities ร่วมกันลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อพัฒนาเฉลียงการขนส่งสินค้าสีเขียวและเฉลียงการขนส่งสินค้าดิจิทัลระหว่างสิงคโปร์ และกลุ่มท่าเรือในอ่าว San Pedro เพื่อรองรับการลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมพาณิชย์นาวี และยกระดับประสิทธิภาพผ่านการเปลี่ยนผ่านสู่กระบวนการแบบดิจิทัล

โดยบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ได้รับการลงนามโดย Mr. Teo Eng Dih ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MPA, Mr. Mario Cordero ผู้อำนวยการบริหาร ท่าเรือ Long Beach และ Mr. Gene Seroka ผู้อำนวยการบริหาร ท่าเรือ Los Angeles โดยมีเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสิงคโปร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรักษาการรัฐมนตรีกระทรวงความสัมพันธ์ทางการค้าของสิงคโปร์ ประธาน MPA ประธานคณะกรรมาธิการท่าเรือ Long Beach และรองประธานคณะกรรมาธิการท่าเรือ Los Angeles ร่วมเป็นสักขีพยาน

“ไม่มีท่าเรือหรือองค์กรใดสามารถรับมือกับความท้าทายในการลดการปล่อยคาร์บอนในซัพพลายเชนได้โดยลำพัง ไม่ว่าพวกเขาจะมีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า หรือใช้ความพยายามมากเพียงใดก็ตาม การจัดตั้งเฉลียงการขนส่งสินค้าสีเขียวระหว่างกลุ่มท่าเรือในอ่าว San Pedro และสิงคโปร์ จะเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของความร่วมมือในระดับโลก” Mr. Seroka กล่าว

ในฐานะท่าเรือศูนย์กลางชั้นนำ สิงคโปร์, Long Beach และ Los Angeles เป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญบนเส้นทางการเดินเรือข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก และถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักในการเปลี่ยนผ่านสู่ปฏิบัติการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของภาคพาณิชย์นาวี ท่าเรือทั้งสามแห่งและเครือข่าย C40 Cities รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ในห่วงโซ่มูลค่าเชิงพาณิชย์นาวีและพลังงาน จะร่วมกันผลักดันการลดการปล่อยคาร์บอนของอุตสาหกรรมโดยสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) และการมีส่วนร่วมที่กำหนดโดยสิงคโปร์และสหรัฐอเมริกา

เฉลียงการขนส่งสินค้าแบบดิจิทัลสีเขียวมีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้เชื้อเพลิงมลพิษต่ำและเชื้อเพลิงที่ปล่อยมลภาวะเป็นศูนย์โดยเรือที่เข้าเทียบท่าที่สิงคโปร์และกลุ่มท่าเรือในอ่าว San Pedro ในการนี้ คู่สัญญาทุกฝ่ายจะสนับสนุนการจัดหาและใช้เชื้อเพลิงดังกล่าว รวมถึงค้นหาแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นและกฎระเบียบสำหรับการเติมเชื้อเพลิงเรือ นอกเหนือจากการระบุและร่วมมือกันในโครงการนำร่องและโครงการสาธิตแล้ว บันทึกความเข้าใจนี้ยังมีเป้าหมายเพื่อระบุโซลูชันการขนส่งแบบดิจิทัล และพัฒนามาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับท่าเรือสีเขียวและการเติมเชื้อเพลิงเรือทางเลือกอื่นๆ รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์ในเวทีระหว่างประเทศ เช่น IMO เป็นต้น

ทั้งนี้ C40 Cities เป็นเครือข่ายของนายกเทศมนตรีเกือบ 100 คน จากเมืองชั้นนำของโลก ซึ่งร่วมมือกันเพื่อดำเนินการอย่างเร่งด่วนสำหรับปฏิบัติการต่างๆ ที่มีความจำเป็นในปัจจุบัน เพื่อรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และสร้างสรรค์อนาคตที่ทุกคน ในทุกแห่งสามารถเติบโตได้ นายกเทศมนตรีของเมืองในกลุ่ม C40 Cities มีพันธกิจในการใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์และแนวทางที่ให้ความสำคัญกับผู้คน เพื่อช่วยจำกัดความร้อนของโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และสร้างชุมชนที่แข็งแกร่ง เท่าเทียม และยืดหยุ่น


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DSV เปิดตัว Book and Claim โซลูชันลดการปล่อยคาร์บอนครอบคลุมทุกโหมดการขนส่ง
บทความถัดไปMSC ปรับผังบริการ Sentosa เพิ่มบริการตรงสู่ Haiphong
Thanathas Akkhachotkawanich
Bangkok grew, Australian aged, Silicon Valley matured, this aspiring writer adds flavor to our team with his assuring smile and quill-tip talents.