FedEx เผย 6 เทรนด์ ปฎิวัติการขนส่งเวชภัณฑ์ในเอเชีย

0
2869

ปัจจุบันตลาดสินค้าเวชภัณฑ์ในเอเชียเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด เพราะเป็นหน้าด่านที่ต้องต่อกรกับวิกฤตโควิด-19 โดยตรง ทำให้ตลาดแสดงท่าทีที่จะปฎิวัติตนเองในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการผลิต ซัพพลายเชน และการขนส่งเวชภัณฑ์ FedEx ในฐานะหนึ่งในผู้ให้บริการขนส่งแบบด่วนรายใหญ่ที่สุดของโลก จึงรวบรวม 6 เทรนด์มาแรงที่จะปฏิวัติวงการขนส่งสินค้าเวชภัณฑ์ในเอเชียมาให้ทุกคนได้ติดตาม

1. ผลิตและส่งสินค้าถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบันการผลิตยาจำนวนมากโดยใช้ต้นทุนต่ำได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว และถึงแม้ว่าการผลิตเช่นนี้จะก่อให้เกิดการถกเถียงเรื่องราคาและคุณภาพ แต่มันก็ช่วยเร่งการพัฒนานวัตกรรมที่มีความสามารถหลายด้านอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่กำลังค้นหาเทคโนโลยีสำหรับเพิ่มกำลังการผลิตอย่างรวดเร็ว กลุ่มบริษัทขนาดเล็กได้หันมาใช้ปรับซัพพลายเชนของตนเอง เพื่อให้สามารถขนส่งเวชภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็วทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ ตลาดยังเกิดการลงทุนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพด้านการดูแลสุขภาพ ตลาดธุรกิจ med-tech และตลาดชีวเวทภัณฑ์

2. ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น: ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อสภาพแวดล้อม ช่วยผลักโซลูชั่นด้านความยั่งยืน

มีผู้บริโภคจำนวนมากที่ต้องการซื้อสินค้าที่ผลิตผ่านกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน โดยกลุ่มธุรกิจที่ยั่งยืน (sustainable companies) ทว่าในปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์ของสินค้ากลุ่มเวชภัณฑ์ก่อให้เกิดปัญหาด้านขยะ ทำให้ต้องพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังคงเก็บรักษาอุณหภูมิไว้ได้ในระยะ 2-8 องศาเซลเซียส

ยกตัวอย่างเช่น บริษัทชีววิทยาศาสตร์ (life science) แห่งหนึ่งในเอเชียที่จัดจำหน่ายสารหล่อเลี้ยงเด็กหลอดแก้ว (IVF culture medium) ที่ส่งสินค้าออกไปสู่ 14 ประเทศ โดยสารหล่อเลี้ยงถูกบรรจุและเดินทางนานถึง 96 ชั่วโมง ภายในเม็ดแพค วิค (Medpak VIoC) ซึ่งเป็นโซลูชั่นห่วงโซ่ความเย็นแบบเช่ายืมที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

3. ออกแบบและปรับเปลี่ยนระบบซัพพลายเชน และระบบขนส่งใหม่

ธุรกิจด้านเวชภัณฑ์นั้น ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการวางแผนเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งการวางแผนนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างอุตสาหกรรม และตัวแปรที่ทำให้การจัดการซัพพลายเชนเกิดความวุ่นวายเช่นกัน

วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน ทำให้หลายบริษัทเลิกล้มการวางแผนแบบดั้งเดิม และหันมาผลักดันให้ทีมโลจิสติกส์วิเคราะห์ซัพพลายเชนของตัวเอง เพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงด้านการปฎิบัติการและการขนส่งมากขึ้น นอกจากนี้ เรายังเห็นได้ว่าศูนย์กระจายสินค้าได้เปลี่ยนมามีบทบาทที่สำคัญมากยิ่งขึ้น สำหรับ FedEx เอง พวกเขาจะมุ่งให้ความสำคัญด้านการขนส่งเวชภัณฑ์สำคัญผ่านเครือข่ายของบริษัทฯ และเน้นการจัดการสินค้าอย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว ทั้งการขนส่งทางบก ทางอากาศ และทางเรือ

4. เร่งพัฒนาความคล่องตัวทางการผลิตแบบถาวร

การแข่งขันด้านการค้นคว้าและพัฒนายาที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ซัพพลายเชนที่ถูกออกแบบมาอย่างเฉพาะตัวจึงเพิ่มขึ้นมาด้วย การเกิดขึ้นของซัพพลายเชนกลุ่มนี้ไม่ได้มีเพียงในตลาดเวชภัณฑ์เท่านั้น แต่บริการซัพพลายเชนในรูปแบบเฉพาะ หรือ “as-a-service” กำลังปรากฏให้เห็นในทุกกลุ่มของธุรกิจด้านสุขภาพ FedEx จึงนำเสนอบริการจัดการซัพพลายเชนในรูปแบบเฉพาะในกลุ่มยา กลุ่มชีววิทยาศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างทดลอง และกลุ่ม med-tech

วิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายบริษัทตระหนักถึงความสำคัญของความคล่องตัว เนื่องมากจากความหวาดกลัวการขาดแคลนยาฆ่าเชื้อและยาชนิดอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้นการปิดตัวลงอย่างยาวนานของโรงงานผลิตในประเทศจีน นอกจากจะทำให้เราสามารถมองเห็นจุดอ่อนของซัพพลายเชนจำพวกเวชภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ยังทำให้หน่วยงานรัฐบาลและบริษัทจำนวนมากกำลังมองหาตัวเลือกอื่นอีกด้วย

5. ติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ

บริษัทจำนวนมากกำลังมองหาช่องทางใหม่ในการยกระดับความยั่งยืนที่คุ้มค่ามากกว่า ทำให้เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบการเดินทางและขนส่งในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น การทดลองใช้โดรนเพื่อส่งพัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่สามารถนำมาใช้จัดส่งวัคซีน ยา หรือแม้กระทั่งตัวอย่างเลือดและเนื้อเยื่อเพื่อใช้ทำการทดลองทางการแพทย์ในอนาคต

6. ความท้าทายด้านการขนส่ง เมื่อตลาดเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดเวชภัณฑ์จะเติบโตและมีมูลค่าสูงถึง 269.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2024 เนื่องจากหลายบริษัทสามารถผลิตยาใหม่ๆ สำหรับโรคที่ไม่สามารถรักษาได้มาก่อน  และการขยายตัวของตลาดจะสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้แก่ภูมิภาคเอเชีย เพราะบริษัทจำเป็นจะต้องมองหาซัพพลายเชนที่มีความยืดหยุ่นด้านการจัดการมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การเลือกบริษัทนายหน้าขนส่งในการขนส่งเวชภัณฑ์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านพิธีการศุลกากร สามารถจัดการระบบการขนส่ง ตรวจสอบคุณภาพได้ บนเครือข่ายที่ไว้วางใจได้ เพราะในท้ายที่สุดนี้ เราต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาระบบซัพพลายเชนขนส่งอุปกรณ์ด้านสุขภาพในอนาคต จะต้องเน้นการขนส่งที่มีคุณภาพและสามารถไว้วางใจได้ ให้มีความสำคัญมากกว่าหรือเท่ากับการขนส่งอย่างรวดเร็วเช่นกัน

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Logistics Mananger เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Logistics Manager หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DHL ครองสถานะ Leader ตามรายงานวิจัย Gartner MQ
บทความถัดไปZIM เปิดตัวแพลตฟอร์ม eZ Quote จองระวางอัตรา Spot พร้อมการันตีที่ว่างบนเรือ
Phubet Boonrasri
Chen is an experienced writer and an avid explorer of nature. He thrives on travelling, hiking, and backpacking to new places. His wanderlust has allowed him to experience and learn from new cultures, allowing him to better accommodate for whatever comes his ways.